ต่างคนต่างพึ่งกัน

วันนี้ ก็อยากจะมาแสดงแง่คิดอะไรสักอย่างแก่ท่านทั้งหลาย เผื่อว่าจะได้เกิดเป็นแนวความคิดที่เป็นคุณประโยชน์ ที่อาจจะเกิดกับสิ่งใหม่ๆ เรื่องใหม่ๆ สำหรับท่านทั้งหลายได้บ่าง ไม่มากก็คงน้อย ผมเองนั้นได้เล่าเรียนวิชชาอักขระขอมเริ่มต้น จากพ่อครูกาหลงเป็นผู้ประสิทธิ์ตำราและแนะนำสั่งสอนให้ได้รู้หลักและเขียนภาษาขอมได้ และก็อาศัยค้นจากตำราต่างๆเพื่อทำความเข้าใจหลักปลีกย่อยเพิ่มเติมในสิ่งที่ยังไม่รู้ ในความรู้หนึ่งที่ได้จากการค้นคว้าคือได้รู้ว่า ภาษาขอมเป็นภาษาหนึ่งที่ได้จดจารจารึกพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสืบมาให้เราได้ศึกษาและปฏิบัติ โบราณจึงถือว่าอักษรขอมเป็นอักษรที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นที่มาในการใช้ลงเลขยันต์คาถาและสักเสกกันสืบมาเป็นยุคเป็นสมัยมาถึงเราท่านทุกวันนี้ และด้วยความเข้าใจถึงคุณค่าของภาษานี้เอง จึงทำให้ผมตระหนักไว้ในใจตนและเตือนใจตนเองว่า เราควรเคารพในคุณของอักษรที่เราเล่าเรียน ฉนั้นในการจารหรือสัก ผมจึงถือในใจตนเองว่าจะไม่นำอักษรและลายยันต์ลงต่ำกว่าเอว และตั่งแต่เล่าเรียนและเคยจารให้ศิษย์ ผมก็ไม่เคยเอาอักษรลงต่ำกว่าเอว ด้วยความรู้สึกว่าอักษรทุกตัวได้เคยจารจดคำสอน จารจดคาถาเลยยันต์ที่ทรงคุณค่า ทั้งเป็นคุณธรรมอันยิ่งใหญ่และภูมิปัญญาแห่งครูอาจารย์ท่าน ในส่วนตัวผมจึงไม่กล้าและไม่คิดจะเอาอักษรเหล่านี้ไปวางไว้ที่ไม่เหมาะสม และด้วยความคิดเห็นส่วนตัวนี้ ก็ไม่ได้ต้องการจะยัดเยียดให้ศิษย์คนใดคนหนึ่ง ในสิ่งที่กล่าวเพียงเพื่อแสดงให้ท่านได้คิดว่า เราเองนั้นต่างก็ได้อาศัยสิ่งต่างๆเพื่อให้ตนเองได้ดำรงค์อยู่รอด และได้รับประโยชน์ต่างๆจากสิ่งเหล่านั้น มากบ่างน้อยบ่าง เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราก็ควรจะหันกลับมามองตนเองว่า เราได้สำนึกและให้ความสำคัญแก่สิ่งรอบตัวเรามากน้อยเพียงใด อันแสดงถึงความที่เป็นผู้มีจิตได้ยกระดับเป็นมนุษย์ ซึ่งมนุษย์แปลความหมายว่า ผู้มีใจสูง คือสูงด้วยคุณธรรม และคุณธรรมหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่าเป็นเครื่องหมายแห่งคนดีคือความมีกตัญญูกตเวทิตา ฉนั้นเมื่อเราได้รับประโยชน์จากสิ่งต่างๆแล้ว เราได้ตอบแทนอะไรเขาบ่าง แม้การสำนึกระลึกคุณ ทำความเคารพนอบน้อมกราบไหว้ให้เกียรติ เราได้ทำหรือยัง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็เป็นเหตุปัจจัยพึ่งกันและกัน เป็นต้น
เพราะเหตุอย่างนี้ ผมเองจึงได้ตระหนักและมีแนวคิดที่จะไม่เอาอักษรวางในบางที่ๆเห็นว่าไม่ควร ด้วยให้ความเคารพนอบน้อมในพระธรรม ในคุณครู ในคุณอักขระ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าท่านที่สักขาสักแข้งนั้นผิด ทำไม่ถูก เพราะความเป็นจริงหากจิตมีความเคารพแล้ว ถ้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีในการกระทำก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะที่แสดงตรงนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความคิดเห็นแต่ละคนจะพิจจารนาเอา ใครจะเอาแนวคิดผมไปปรับใช้ก็ได้หากพิจจารนาแล้วว่าเห็นสมควร หรือจะไม่ทำก็ได้ สิ่งสำคัญในบทความนี้ที่ต้องการสื่อก็คือ อยากให้ท่านได้เข้าใจถึงหลักของการพิจจารนา และใช้แนวคิดเพื่อให้เกิดความรู้สึกกตัญญูกตเวที ให้เกิดขึ้นมาในจิตตน เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ ไม่ว่าดีหรือเลว ไม่ว่าความคิด คำพูด การกระทำ ล้วนเกิดขึ้นจากเหตุทั้งสิ้น และเราต้องทำเอาเอง ถ้าเราเป็นผู้แสวงหาความเจริญในจิตใจย่อมจะรู้แนวทางแห่งการใช้ปัญญา โดยอาศัยหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นแนวพิจจารนาให้ได้ลงมือปฏิบัติได้อย่างถูกต้องดีงาม
ท้ายนี้ก็ขอให้ท่านทั้งหลายที่ติดตามข้อความผมมาตลอดได้ใช้ปัญญาใคร่ครวญให้เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด และลงมือปฏิบัติเอา อย่าเชื่อด้วยงมงายว่าผมเป็นครู ครูพูดต้องถูก เพียงแต่เชื่อไว้เพื่อรับฟัง จะได้เป็นเหตุให้เกิดการคิดตามและทำตาม "ไม่มีใครสอนเราได้ ถ้าเราไม่เอาคำสอนเขามาสอนตน"
สาธุๆๆ
ต้องการลงโฆสนาติดต่อโดยตรงที่เบอร์ 0869732570
เดือนละ150บาท ต่อ หนึ่งหัวข้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น